ความมั่นคงคืออะไร

Emanuel Pastreich
2 min readSep 16, 2022

“ความมั่นคงคืออะไร”

Emanuel Pastreich

ผู้สมัครอิสระชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

26 พฤษภาคม 2020

คำว่า “ความมั่นคง” หมายถึงอะไรกันแน่ คำถามนี้เรียบง่ายจนทำให้คิดได้กว้างมาก และที่สำคัญพอ ๆ กับคำถามก็คือ เราใช้เงินนับพันล้าน นับล้านล้านเหรียญไปกับความมั่นคง แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงส่วนใหญ่ที่เดินไปมาตามสถาบันคลังสมองที่หรูหรา หรือที่พูดจาวางท่ากับเราจากเพนตากอน จากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือจากรายการข่าวต่าง ๆ นั้นไม่อยากพูดถึงธรรมชาติที่แท้จริงของความมั่นคง

สิ่งหนึ่งที่เราแน่ใจก็คือ เงินภาษีของคุณและหนี้สาธารณะที่ลดความสามารถในการจับจ่ายของคุณถูกใช้ไปกับการพัฒนาอาวุธและดาวเทียมใหม่ ๆ รวมถึงโปรแกรมทางการทหารและหน่วยข่าวกรองอื่น ๆ ซึ่งคุณไม่เคยได้ยินมาก่อนและไม่ต้องมีการตรวจสอบจากภายนอก

คนในจำนวนมากยอมรับว่า พวกเขาไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่เราซื้อถูกสร้างขึ้นหรือนำมาใช้จริง ๆ หรือไม่ เพราะโปรแกรมเหล่านี้เป็นความลับและมีลักษณะที่ไม่โปร่งใส กระทรวงกลาโหมปฏิเสธการตรวจสอบ หน่วยข่าวกรองก็เข้าถึงไม่ได้พอ ๆ กัน

มีสิ่งหนึ่งที่เราทราบแน่นอน คือ เรากำลังสร้างหนี้ก้อนโตให้กับลูกหลาน เรากำลังค่อย ๆ มุ่งหน้าสู่สงครามโลก เรากำลังขุดหลุมฝังศพให้กับใครบางคนด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อ “ความมั่นคง” ทั้งหมดเหล่านั้น ใครบางคนที่ว่านั้นน่าจะเป็นใคร

เงินนับล้านล้านเหรียญถูกใช้ไปเพื่อความมั่นคง แต่เรากลับรู้สึกปลอดภัยน้อยลงเรื่อย ๆ

47

ค่าใช้จ่ายเพื่อความมั่นคงบวกกับเงินนับล้านล้านเหรียญที่โปรยให้ธนาคารเพื่อการลงทุนนั้นได้เปิดประตูนรกและราดน้ำมันลงไปทั่วภาคเศรษฐกิจ ตอนนี้ พวกโรคจิตที่จัดการพอร์ตให้กับมหาเศรษฐีก็ได้มาพร้อมไม้ขีดไฟในกำมือ

ความมั่นคงมักได้รับการนิยามในแง่การทหาร แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แม้แต่ทหารก็ไม่มีความสำคัญต่อผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง สิ่งที่ได้รับความนิยมมากกว่าคือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างเครื่องบินต่อสู้ ดาวเทียม เรือบรรทุกอากาศยาน ซึ่งหลาย ๆ อย่างมีมูลค่าที่น่าสงสัย เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างงบประมาณจำนวนมหาศาลให้กับบริษัทต่าง ๆ

เหตุใดเจ้าหน้าที่ทหารเหล่านั้นจึงพยายามอย่างหนักที่จะสนับสนุนอาวุธที่พวกเขาทราบดีว่าไม่เหมาะสำหรับภัยคุกคามด้านความมั่นคง พวกเขาทำเช่นนั้นเพราะทราบว่าเมื่อตนเองเกษียณ บริษัทเหล่านั้นจะจ้างพวกเขา หลายคนเข้ารับราชการทหารเพราะต้องการหาเงินจากการให้คำปรึกษาหลังเกษียณมาตั้งแต่แรก

แต่หลาย ๆ คนที่กังวลเกี่ยวกับความมั่นคงที่แท้จริงกลับถูกลงโทษ หรือแม้กระทั่งเนรเทศ

เราต้องการชายหญิงในงานด้านความมั่นคงในระดับหนึ่ง แต่มักมีการเล่านิทานเกี่ยวกับภัยคุกคามจากประเทศชั่วร้ายให้คนหนุ่มสาวฟัง ซึ่งเป็นการปิดหูปิดตาคนเหล่านี้ให้มองไม่เห็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่แท้จริง

นิทานเหล่านั้นทำให้งบประมาณที่ไม่ถูกต้องกลายเป็นสิ่งที่มีเหตุมีผล ไม่มีรากฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับเรื่องราวเหล่านั้น เป็นเพียงคำพูดของบรรดาผู้ชักชวนของบริษัทคู่สัญญาด้านการป้องกัน

เม็ดเงินกว่าล้านล้านเหรียญจะถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงคลังแสงนิวเคลียร์ของสหรัฐ แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านจะคิดว่าเราจะปลอดภัยมากขึ้นหากเรากำจัดอาวุธนิวเคลียร์ไปเลย และเราได้ตกลงที่จะทำเช่นนั้นภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Nonproliferation Treaty)

ในวันนี้ จากการแสวงหาผลกำไร เครือข่ายที่ซับซ้อนของสนธิสัญญาจำกัดอาวุธซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นอย่างรอบคอบในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาเพื่อลดความเสี่ยงของการแข่งขันด้านอาวุธ (และสงครามนิวเคลียร์) ได้แตกสลายลงแล้ว

สหรัฐอเมริกากำลังวิ่งออกห่างจากสนธิสัญญาสากลที่ป้องกันสงครามนิวเคลียร์และสงครามทั่วไป การประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าเราจะถอนตัวออกจากสนธิสัญญาเปิดน่านฟ้า (Open Skies Treaty) ซึ่งรับประกันความโปร่งใสทางด้านการทหารเป็นเพียงตัวอย่างล่าสุดเท่านั้น

นอกจากนั้นก็ยังมีการประกาศที่น่าตื่นตระหนกในเรื่องความเป็นไปได้ในการเริ่มทดลองนิวเคลียร์ใหม่ของอเมริกา ซึ่งเป็นการประกาศในเรื่องดังกล่าวครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992

ในทางกลับกัน ความสามารถของสหรัฐในการจัดการกับความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิผลและมีเหตุผลนั้นได้เสื่อมลงจากการลดงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ การปลดผู้เชี่ยวชาญจากตำแหน่งสำคัญ ๆ และการยุติแม้แต่หน้าที่ทางการทูตขั้นพื้นฐานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจใหญ่กำลังบังคับให้เราพึ่งพาการผลิตอาวุธเพื่อเลี้ยงชีพ

ธุรกิจเหล่านี้ดำเนินงานอย่างร้ายกาจโดยการส่งหน้าที่ในการผลิตทั้งหมดให้กับต่างประเทศ และทำให้การเพาะปลูกและบริการอื่น ๆ ในสหรัฐเป็นไปโดยอัตโนมัติจนไม่มีงานเหลือ งานด้านการผลิตที่มั่นคงพบได้ในภาคการผลิตอาวุธเท่านั้น อุบายดังกล่าวทำให้เราสนับสนุนอุตสาหกรรมอาวุธเพื่อให้มีงานทำ

และในตอนนี้ที่เราเกลือกกลิ้งอยู่ท่ามกลางหนี้สิน โรงงานของเราก็ได้ปิดตัวลง เครื่องมือเดียวที่รัฐบาลฟอนเฟะของเราเหลืออยู่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจก็คือการวางแผนทำสงครามกับจีน อิหร่าน และ/ หรือรัสเซีย

ใคร ๆ ก็ทราบว่าแผนการที่อันตรายและก่อให้เกิดหายนะเหล่านี้มีความก้าวหน้าอย่างมาก และสามารถนำมาซึ่งจุดจบของอารยธรรมของมนุษย์ได้ง่าย ๆ แม้ว่านั่นจะไม่ใช่เจตนาก็ตาม

ถึงเวลาที่แนวทางด้านความมั่นคงต้องมีความสมเหตุสมผลแล้ว แต่คุณจะไม่พบความสมเหตุสมผลมากนักในวอชิงตันดีซี

ฉะนั้น ปัญหาด้านความมั่นคงที่แท้จริงสำหรับสหรัฐคืออะไรในขณะที่เราล่องลอยเข้าไปใกล้สงครามโลกมากขึ้น และสื่อทำให้พลเมืองของเราเพิกเฉยต่อหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างน่าใจหาย

ผมจะมานำเสนอภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่สำคัญบางประการ ดังนี้

1) ลัทธิต่อต้านปัญญาชน

ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อความมั่นคงของประเทศเราคือมะเร็งร้ายแห่งลัทธิต่อต้านปัญญาชน ซึ่งเป็นการทำให้ชาวอเมริกันมีสติปัญญาถดถอย และการไม่สนับสนุนให้มีการคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านสื่อที่เน่าเฟะ การสูญสลายของแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ซึ่งไม่ขึ้นต่อผลประโยชน์ทางการเงิน รวมทั้งการอภิปรายของชุมชนในท้องถิ่นเกี่ยวกับหัวข้อที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งค่อย ๆ จางหายไปนั้นได้เปิดประตูสู่ความวิบัติ

การเสาะหาความจริงอย่างกล้าหาญเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนโยบายด้านความมั่นคงที่มีความหมายใด ๆ หากเราไม่สามารถจดจ่อได้นานเกินสองสามนาที หากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และโซเชียลมีเดียไม่นำเสนอการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์โดยละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่แท้จริงให้ประชาชนได้รับทราบ และหากเราไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีบทบาทในฐานะพลเมืองที่มีความคิด ก็จะไม่มีการวางแผนเพื่อความมั่นคงอย่างมีความหมาย และเราก็จะล่องลอยไปสู่สงครามโลกโดยที่ไม่รู้ตัวเลย

2) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการวางยาพิษให้กับสิ่งแวดล้อม

ภัยคุกคามทางการทหารจากจีน รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือมีความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งจะทำให้พื้นที่แถบใหญ่บนโลกของเราอยู่อาศัยไม่ได้ในช่วง 10–20 ปีที่จะมาถึงนั้นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน 100%

ถูกแล้ว ภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติถูกละเลยและให้ความสำคัญน้อยกว่าที่ควรอย่างต่อเนื่องในสื่อต่าง ๆ และเงินนับล้านล้านเหรียญที่กองทัพและหน่วยข่าวกรองใช้นั้นแทบไม่เกี่ยวอะไรกับการตอบสนองต่อปัญหานี้เลย แต่กลับเป็นการช่วยเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นเพราะกองทัพสหรัฐเป็นกลุ่มที่ก่อให้เกิดมลภาวะมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง

การยกเลิกกฎระเบียบต่าง ๆ เป็นเวลานับหลายสิบปีทำให้รัฐบาลไม่มีอำนาจสั่งให้อุตสาหกรรมหยุดวางยาพิษพลเมือง แต่ขั้นตอนสุดท้ายในการแต่งตั้งผู้ชักชวนสำหรับอุตสาหกรรมไปอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ ได้เปลี่ยนรัฐบาลไร้อำนาจไปเป็นสัตว์ร้ายจอมดุดันที่หาทางบังคับให้เราทุกคนใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

การประเมินภัยคุกคามที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามความเป็นจริงใด ๆ ในช่วง 30 ปีที่จะมาถึงจะเผยให้เห็นว่าอันตรายนั้นใหญ่หลวงมาก และค่าใช้จ่ายในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงและการบรรเทาปัญหานี้มีมูลค่ามหาศาลจนเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการลงนามในข้อตกลงกับทุกประเทศเพื่อลดอาวุธทั่วไปและเพื่อกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อให้เราสามารถมุ่งเน้นทรัพยากรทั้งหมดไปกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของเราให้เป็นแบบหมุนเวียน 100% โดยสมบูรณ์

หากเราสามารถเปลี่ยนแปลงกองทัพ หน่วยข่าวกรอง และภาคส่วนอื่น ๆ ของระบบ “ความมั่นคง” ในปัจจุบันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการกำจัดอาวุธที่ล้าสมัยและเป็นอันตราย และมุ่งมั่นพยายามที่จะให้การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นศูนย์แล้วเปลี่ยนเศรษฐกิจของโลกในเวลาไม่กี่ปี ถึงตอนนั้นหน่วยงานเหล่านี้จึงจะสามารถมีบทบาทได้ มิฉะนั้นแล้วพวกเขาต้องถูกปิดตัวลง

รถถัง ระบบป้องกันขีปนาวุธ หรือดาวเทียมของหน่วยข่าวกรองนั้นไม่สามารถทำอะไรเพื่อที่จะหยุดการแพร่กระจายของทะเลทราย ภาวะทะเลร้อนและเป็นกรด และการทำลายเกษตรกรรมจากภาวะโลกร้อนได้ นี่จะเป็นการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความเป็นความตาย ราคาอาหารจะพุ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณและผู้คนส่วนใหญ่ในโลกจะประสบปัญหาในการเลี้ยงปากท้องของตนเอง ทุกสิ่งที่ว่ามานี้จะเกิดขึ้นในขณะที่มหาเศรษฐีเพียงแค่หยิบมือเดียวกักตุนทรัพยากร

เราไม่มีแผนระยะยาวในการรับมือกับการล่มสลายของระบบจัดหาอาหารของเรา หรือระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่ทราบถึงภัยคุกคามเหล่านี้ด้วยซ้ำ การบริหารจัดการในปัจจุบันกลายเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์จากเชื้อเพลิงฟอสซิล ระบบนี้ไม่สามารถกำหนดนโยบายที่มีความหมายได้และพยายามทำลายการอภิปรายทางวิทยาศาสตร์

3) ความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่ง

การที่เราไม่สามารถต่อสู้กับภัยคุกคามด้านความมั่นคงได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกระจุกตัวของความมั่งคั่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และทะยานขึ้นถึงจุดสูงสุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลและกองทัพถูกลดบทบาทให้เป็นเพียงแค่ของเล่นสำหรับมหาเศรษฐีเพียงหยิบมือเดียว

การทำลายล้างธุรกิจครอบครัว คุณภาพที่ด้อยลงของงานที่คนหนุ่มสาวสามารถเข้าถึงได้ และอำนาจของธนาคารเพื่อการลงทุนและองค์กรทางการเงินเพื่อการเก็งกำไรอื่น ๆ ที่มีเหนือการวางแผนทางเศรษฐกิจนั้นกำลังสร้างสังคมของเราขึ้นมาใหม่

ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่คำนึงถึงชีวิตของประชาชน และทำกำไรจากการสร้างความไม่มั่นคง บรรดาเศรษฐีอยากสั่งเครื่องบินขับไล่ 100 F 35 อีกลำซึ่งมีมูลค่าที่น่ากังขาอยู่ที่ลำละ 120 ล้านเหรียญมากกว่าที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเข้าใจปัญหาด้านความมั่นคงที่เราเผชิญ

จะไม่มีนโยบายด้านความมั่นคงจนกว่าเราจะเรียกคืนเงินนับล้านล้านเหรียญที่เหล่ามหาเศรษฐีได้ขโมยไป และจัดตั้งรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบซึ่งมุ่งเน้นผลประโยชน์ระยะยาวของประชาชน

4) การปรากฏขึ้นของอาวุธใหม่

แม้ภัยคุกคามที่ครอบงำประเทศของเราคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่เราก็ต้องทราบด้วยว่า เราจำเป็นต้องมีการตอบโต้การแข่งขันด้านอาวุธทั่วโลกและการปรากฏขึ้นของอาวุธใหม่ ๆ ที่จะเป็นตัวพลิกเกม

อัตราวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีแบบทวีคูณหมายความว่า อาวุธที่สามารถสังหารคนนับหมื่นแสนหรือมากกว่านั้นกำลังมีราคาถูกลง กลุ่มเล็ก ๆ หรือแม้แต่ปัจเจกบุคคลก็สามารถเข้าถึงได้ การตอบโต้ภัยคุกคามที่คาดไม่ถึงนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือและความไว้วางใจระหว่างองค์กรที่มีความรับผิดชอบทั่วโลก อย่างไรก็ตาม องค์กรระหว่างประเทศส่วนใหญ่ถูกปล้นจี้โดยเหล่ามหาเศรษฐีมากอำนาจ และองค์กรเหล่านั้นไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมอีกต่อไป

ใครควบคุมเทคโนโลยีที่ปรากฏขึ้นมา รวมถึงวิธีใช้งานและวิธีควบคุมด้วยนั้นจะเป็นคำถามชี้ขาดสำหรับสหรัฐและมนุษยชาติ ในวันนี้เรียกได้ว่าไม่มีระเบียบข้อบังคับเลย แต่วิกฤตนี้สามารถจัดการได้ผ่านข้อตกลงระดับสากลและสนธิสัญญาผูกพันเท่านั้น

ภัยคุกคามจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ นั้นแทบไม่เกี่ยวกับรัฐชาติเลย ผู้ผลิตและผู้สนับสนุนอาวุธร้ายแรงเหล่านี้ไม่มีความภักดีอื่นใดนอกจากผลกำไร เราลองมาพิจารณาเทคโนโลยีใหม่ ๆ บางส่วนเหล่านี้

1. โดรนและหุ่นยนต์

โดรนและหุ่นยนต์สังหารเป็นเทคโนโลยีด้านที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งได้รับการส่งเสริมจากบริษัทต่าง ๆ เพื่อแสวงหาผลกำไรอย่างรวดเร็ว ดิสโทเปียแห่งการสังหารโดยเครื่องจักรที่ไม่อยู่ในความควบคุมได้เริ่มขึ้นแล้วในประเทศยากจน หากเราไม่มีสนธิสัญญาผูกพัน สิ่งนี้ก็จะถูกนำเข้ามายังสหรัฐอย่างเต็มที่ ไม่ใช่โดยชาวต่างชาติแต่จากคนในเอง

ทั้งหุ่นยนต์และโดรนบินมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น คล่องแคล่วขึ้น มีขนาดเล็กลง และสามารถสังหารได้อย่างไร้ความปรานีหรือความรับผิดชอบใด ๆ ในวงกว้าง

ในอนาคต โดรนจะก่อตัวเป็นฝูงบินกว่า 10,000 ลำหรือมากกว่านั้น แต่ละลำจะมีอาวุธที่แตกต่างกันไป และหลาย ๆ ลำมีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น โดรนเหล่านี้จะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า เครื่องบินรบและเรือบรรทุกเครื่องบินในปัจจุบันจะเป็นของแปลกตาที่แสดงถึงแนวคิดเรื่องความมั่นคงอันล้าสมัย

เครื่องจักรสังหารอิสระจะสามารถปฏิบัติงานได้โดยที่มนุษย์ไม่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง สิ่งนี้ต้องเป็นหัวเรื่องของสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่บังคับใช้อย่างเข้มงวด แต่ก่อนอื่นเราต้องก่อตั้งรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบซึ่งสามารถดำเนินการขั้นตอนที่มีความจำเป็นได้

สงครามไซเบอร์และสื่อโฆษณาชวนเชื่อ

มีการใช้สงครามไซเบอร์อย่างกว้างขวางในปัจจุบัน เราถูกป้อนข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดซึ่งมีเจตนาในการสร้างความสับสนและการแบ่งแยก และส่งเสริมวิธีแก้ปัญหาทางการทหารที่อันตรายสำหรับปัญหาที่ซับซ้อน

ยิ่งไปกว่านั้น สงครามไซเบอร์ในอนาคตจะทำให้คนกลุ่มเล็ก ๆ บางกลุ่มสามารถยึดครองอาวุธทั่วโลกซึ่งถูกสร้างขึ้นมาอย่างโง่เขลาให้สามารถควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

สมมติฐานพื้นฐานเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัฐกับรัฐที่หนุนนโยบายความมั่นคงของชาตินั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่หากจะมีการใช้ก็คงเป็นสื่อที่ส่งเสริมโมเดลความขัดแย้งของอำนาจอันยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ปรากฏขึ้นอีก เช่น การพิมพ์ 3 มิติซึ่งการนำไปใช้ด้านการทหารนั้นยังไม่เป็นที่เข้าใจมากนัก แต่อาจกลายเป็นภัยคุกคามที่เป็นตัวพลิกเกมและเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

เราต้องทำอย่างไร

พลเมืองของเรามีสิทธิ์ในนโยบายความมั่นคงที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการแสวงหาความจริงและชี้นำโดยความมุ่งมั่นตามหลักจริยธรรม โดยการอภิปรายจะไม่มีพื้นที่ให้กับผลกำไรที่ได้มาจากการค้าขายระบบอาวุธยุทโธปกรณ์

คำถามว่าเราจะเปลี่ยนกองทัพที่สิ้นเปลืองและอันตรายไปเป็นกองกำลังที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมและจัดการข้อกังวลด้านความมั่นคงที่แท้จริงได้อย่างไรนั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเรา

ผมจะไม่เสแสร้งว่าผมรู้คำตอบที่ถูกต้อง ประเด็นของผมในการปราศรัยครั้งนี้คือการระบุถึงเค้าโครงของปัญหาและเพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนรวมทั้งสมาชิกกองทัพและหน่วยข่าวกรองทุกคนให้กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ที่แท้จริงของเรา ให้ต่อต้านลัทธิทหาร และให้ปฏิเสธสินบนและการข่มขู่ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ถูกนำมาใช้เพื่อผลักดันให้เราก้าวสู่หายนะ

เราไม่มีธุระที่จะสร้างปัญหากับประเทศอื่น ๆ เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน หรือเวเนซูเอลา เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามระดับโลกซึ่งโดยธรรมชาติของปัญหาแล้วจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือในระดับสากล

เรามาร่วมมือกันกับประชาชนที่เปี่ยมไปด้วยพลังความคิดทั่วโลกเพื่อเขียนกฎเกณฑ์เพื่อความมั่นคงขึ้นมาใหม่ และส่งเสริมประชาชนที่มีความคิด กล้าหาญ และชาญฉลาดที่สามารถเปลี่ยนหายนะที่เราเผชิญให้เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสถาบันจากรากฐานผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอย่างมีจริยธรรม

หลาย ๆ คนได้โต้แย้งว่าผมมีอุดมคติที่ไม่พิจารณาสภาพความเป็นจริง ว่ามีมุมมองในแง่ดีจนเกินไปในเรื่องความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมตอบกลับไปว่าผมได้เรียนประวัติศาสตร์มาและมีประสบการณ์การทำงานด้านการทูต ผมคิดว่าการปฏิเสธคุณค่าและวิสัยทัศน์ดังกล่าวมีแต่จะทำให้โลกของเราอันตรายมากขึ้น

และการโต้แย้งในเชิงเย้ยหยันนี้ก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พอแล้วกับการทำให้ผู้คนหวาดกลัวปีศาจแห่งฝันร้าย ทำให้คนขวัญผวาด้วยรูปภาพที่น่าสยดสยอง เรามาสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำสิ่งดี ๆ และสนับสนุนให้ผู้คนยืนหยัดเพื่อความมั่นคงตามความหมายที่แท้จริงของคำที่ถูกใช้ในทางที่ผิดกันอย่างมากมายนี้จะดีกว่า

--

--